Custom Search By Google

Custom Search

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551

การดำเนินชีวิตพอเพียง แบบคริสเตียน

23 กันยายน 2008
โดย นคร เวชสุภาพร

วันนี้เป็นตอนที่ 2 ต่อจากครั้งที่แล้ว ที่ได้บรรยายไว้เรื่องเกี่ยวกับ “ความพอเพียงในทางของพระเจ้า” เศรษฐกิจพอเพียงในทางของพระเจ้า ตอนที่ 2 ชื่อ “การดำเนินชีวิตพอเพียง แบบคริสเตียน” ครั้งที่แล้วเราใช้ข้อพระคัมภีร์หลัก คือ ฟีลิปปี 4:11-13 เราจะมาอ่านกันนะครับ


ฟีลิปปี 4:11-13

“ข้าพเจ้าไม่ได้บ่นถึงเรื่องความขัดสน เพราะข้าพเจ้าจะมีฐานะอย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าก็เรียนรู้แล้วที่จะพอใจอยู่อย่างนั้น ข้าพเจ้ารู้จักที่จะเผชิญกับความตกต่ำ และรู้จักที่จะเผชิญกับความอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ข้าพเจ้ารู้จักเคล็ดลับ ที่จะเผชิญกับความอิ่มท้องและความอดอยาก ความสมบูรณ์พูนสุข และความขัดสน ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า”




“ข้าพเจ้าผจญทุกสิ่งได้ โดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า” ครั้งที่แล้วเราได้เรียนรู้ตรงนี้

ได้ยกตัวอย่างอาจารย์เปาโลที่ได้เรียนรู้จักพอใจในทุกสถานการณ์ของชีวิต และได้บอกเคล็ดลับให้กับเราทั้งหลายว่า การที่จะทำให้ความคิดและจิตใจของเรารู้จักคำว่า “พอ” หรือมีชีวิตอย่างพอเพียงได้ เราต้องมี 4 ประการเหล่านี้ เราจะทวนของเก่าสักนิดหนึ่งนะครับ ว่า.-



1. วางใจว่าพระเจ้าเป็นผู้เลี้ยง ผู้จัดหาสิ่งสารพัดให้กับเรา ที่ครบถ้วนบริบูรณ์ จนเราไม่ขัดสนในสิ่งใดๆ เลย
2. ไม่เปรียบเทียบกับใคร พอใจกับสิ่งที่มีอยู่ เป็นอยู่ ที่พระเจ้าประทานให้กับเราทั้งหลาย
3. ทำตัวให้อยู่เหนือสถานการณ์ ไม่ยึดติดอยู่กับสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง ถ้ามีสถานการณ์เปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ใดก็ตาม ก็ให้เราพอใจในสถานการณ์เหล่านั้น
4. เชื่อมั่นในฤทธิ์เดชอำนาจของพระเจ้าว่า สามารถนำพาเราผ่านได้ทุกเหตุการณ์


นี่คือ 4 หัวข้อหลัก ที่เราได้เรียนรู้กัน ในเรื่องของเคล็ดลับในการจะมีชีวิตอยู่อย่างพอเพียง เมื่อครั้งที่แล้ว

เพื่อให้เราสามารถอธิษฐานได้ทุกวันว่า “พระเจ้า ขอให้ลูกเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์ ขอประทานให้ลูกมีความอดทน ให้ลูกสามารถที่จะเผชิญได้กับทุกสิ่ง สามารถชนะกิเลสตัณหาทางฝ่ายเนื้อหนัง ชนะความเห็นแก่ตัว ชนะความอยากในลาภ ยศ สรรเสริญ ให้รู้จักคำว่า “พอ” ได้มากขึ้นทุกวันๆ ด้วยเถิด”


“ความพอ” คือ หมดกิเลสตัณหาทางฝ่ายเนื้อหนังนั่นเอง

สำหรับความไม่พอ คือ กิเลสตัณหาทางฝ่ายเนื้อหนัง หรือความไม่พอในตัวของเราเอง ยังมีอยู่ มันจึงไม่พอ มันตรงกันข้ามกัน ดังนั้นศัตรูของความพอก็คือความไม่พอนั่นเอง กิเลสตัณหาของฝ่ายเนื้อหนัง คือความเห็นแก่ตัว ความเย่อหยิ่ง ความอยากที่ไม่ยอมหยุดสักที เขาบอกว่าคนที่รวยที่สุด มีความสุขที่สุด และเป็นพระพรมากที่สุด ก็คือ คนที่หมดความอยากนั่นเอง


คำว่า “พอ” นี้ มันรวมทุกอย่าง พอใจในทุกสิ่งเลย

ชีวิตเราไม่ใช่มีเงินอย่างเดียว แต่มนุษย์ไขว่คว้าหา ต้องการ ทุกอย่างในชีวิต เรื่องของการเงิน เรื่องของสุขภาพ เรื่องของครอบครัว เรื่องของเพื่อนฝูง เรื่องของเกียรติยศ เรื่องของความภูมิใจในตัวของเราเอง สิ่งต่างๆ เหล่านี้มีเยอะแยะมากมาย ซึ่งเราต้องเรียนรู้จักคำว่า “พอ” เท่านั้นเอง


เรามาอ่านใน 1 เปโตร 2:11

“ดูก่อนท่านที่รัก ข้าพเจ้าขอวิงวอนท่านทั้งหลาย ผู้อาศัยในโลกอย่างโลกไม่เป็นบ้านเกิดเมืองนอน ให้เว้นจากตัณหาของเนื้อหนัง ซึ่งเป็นข้าศึกต่อวิญญาณจิตของท่าน”



เราพอใจในทุกสถานการณ์ได้ด้วยพระเจ้าที่สถิตอยู่ในเรา

ให้เราอาศัยอยู่ในโลกนี้ แบบโลกนี้ไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนของเรา คือเป็นไปแบบไม่ใช่ระบบของโลก ไม่เป็นไปตามแบบที่คนอื่นเขาทำกัน โลกนี้เขาอยากได้ ทั้งลาภ ทั้งยศ ทั้งสรรเสริญมียิ่งมาก ยิ่งอยากได้มาก แต่ 1 เปโตร 2:11 บอกว่า “เราจะไม่ดำเนินชีวิตอ

1 ความคิดเห็น:

suchart maalaalam กล่าวว่า...

ใช่แล้ว เราต้องดำเนินชีวิตแบบพอเพียง ตามแบบฉบับคริสเตียน

http://www.christianindygroup.com/bbs/

เว็บคริสเตียนคะ ลองแวะเข้าไปชมได้