Custom Search By Google

Custom Search

วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551

อธิษฐานแบบยาเบส



9 ฝ่ายยาเบส เป็นผู้มีเกียรติกว่าพี่น้องทั้งหลายของเขา มารดาของเขาเรียกชื่อเขาว่า ยาเบส กล่าวว่า "เพราะเราคลอดเขาด้วยความเจ็บปวด"
10 ยาเบสทูลพระเจ้าของอิสราเอลว่า "ขอพระองค์ทรงอวยพระพรแก่ข้าพระองค์ และขยายเขตแดนของข้าพระองค์ และขอพระหัตถ์ของพระองค์ อยู่กับข้าพระองค์ และขอพระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ให้พ้นจากเหตุร้าย เพื่อมิให้ข้าพระองค์เจ็บใจปวดกาย" และพระเจ้าทรงประสาทตามที่เขาทูลขอ (1พงศาวดาร 4:9-10)

9And Jabez was more honorable than his brethren: and his mother called his name Jabez, saying, Because I bare him with sorrow. 10And Jabez called on the God of Israel, saying, Oh that thou wouldest bless me indeed, and enlarge my border, and that thy hand might be with me, and that thou wouldest keep me from evil, that it be not to my sorrow! And God granted him that which he requested.(1 Chronicles 4:9-10)

อธิษฐานแบบยาเบส
1 พงศาวดาร 4: 9-10
โดย ศจ. ทรงฤทธิ์ เดชวิญญา

จุดประสงค์ของคำเทศนาคือ เพื่อให้ผู้เชื่อรู้จักคำอธิษฐานของยาเบส และให้ผู้เชื่ออธิษฐานตามแบบของยาเบส

เรียนพี่น้องผู้เชื่อและผู้มีเกียรติทุกท่าน
สามปีมาแล้วผมไปประชุมเกี่ยวกับหลักสุขภาพของ แอ็ดเวนตีส ณ ศูนย์สุขภาพมิชชัน มวกเหล็ก ถูกจัดให้นอนห้องเดียวกันกับ ABJ เขาเป็นหมอจบจากมหาวิทยาลัยโลมาลินดาจากอเมริกา ผมเล่าความฝันของผมให้เขาฟัง ว่าผมอยากจะปลูกโบสถ์ ...............เขาแนะนำผมว่า ให้อธิษฐานแบบยาเบส.....และผมได้อธิษฐานแบบยาเบสเสมอ.....และมันเกิดผลมหัศจรรย์จริง....
พี่น้องผู้เชื่อทุกท่าน ท่านมีความหวังอะไรอยู่ในอกหรือไม่ ท่านวาดฝันชีวิตของท่านอย่างไร วันนี้หลังจากท่านฟังคำเทศนาจบแล้ว ท่านจะรู้วิธีอธิษฐานแบบยาเบส.....ผมอยากให้ท่านอธิษฐานแบบยาเบส
ท่านรู้จักการอธิษฐานแบบยาเบส ไหม....... พระคริสตธรรมยาคัมภีร์ 1 พงศาวดาร 4: 9-10 บันทึกถึงเขาว่า “ฝ่ายยาเบส เป็นผู้มีเกียรติกว่าพี่น้องทั้งหลายของเขา มารดาของเขาเรียกเขาว่า ยาเบส กล่าวว่า “เพราะเราคลอดเขาด้วยความเจ็บปวด” ยาเบสทูตพระเจ้าแห่งอิสราเอลว่า “ขอพระองค์อวยพรแก่ข้าพระองค์ และขยายเขตแดนของข้าพระองค์ และขอพระหัตถ์ของพระองค์อยู่กับข้าพระองค์ และขอพระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ให้พ้นจากเหตุร้าย เพื่อมิให้ข้าพระองค์เจ็บปวดใจปวดกาย” และพระเจ้าทรงประสาทตามที่เขาทูลขอ”

ยาเบสเป็นผู้มีเกียรติ........ ก่อนจะมาเป็นผู้มีเกียรติ ประวัติของเขาน่าสนใจมาก เขาตกอยู่ในการทดลอง ต้องต่อสู้กับอปสรรคทางจิตใจและทางสงคมตั้งแต่แรกเกิด....... ด้วยความโกรธมารดาตั้งชื่อเขาว่า “ยาเบส” แปลเป็นภายาไทยว่า “ตัวแสบ ตรอมตรม เจ็บปวด รวดร้าว”
มารดาไม่สนใจว่าลูกจะรู้สึกอย่างไรในวัยเด็ก เมื่อเพื่อนล้อเลียน แม่ของยาเบสอาจคิดว่าเขาเป็นเจ้าของชีวิตลูก........
คนไทยบางคนตั้งชื่อลูกว่า “หมู”“ หมา”“ควาย”
แม้ว่าแม่ของยาเบสจะโกรธ ตั้งชื่อเขาว่าตัวเจ็บปวด และเธอคิดว่าเธอเป็นเจ้าของยาเบส แต่ยาเบสกลับคิดมากกว่าว่า “พระเจ้าเป็นเจ้าของที่แท้จริงสูงสุดของตัวเขา”
ยาเบสไม่ยอมให้ความรู้สึกของแม่ ความคิดของแม่ และชื่อของเขาเป็นอุปสรรคในชีวิตของเขา ด้วยเหตุนี้พระเจ้าจึงอธิบายชีวิตยาเบสสั้นๆ ว่า “ยาเบส เป็นผู้มีเกียรติกว่าพี่น้องทั้งหลายของเขา”...........
พระเจ้าเห็นว่า คนที่มีอุปสรรค มีปัญหาขวางชีวิต แต่ยังก้าวข้ามไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ก่อปัญหา อุปสรรค เป็นบุคคลที่เขารักและเขาควรรักเรา....เพียงแต่เขาตระหนักและเชื่อว่า “พระเจ้าเป็นเจ้าของที่แท้จริงของเขา” สดด. 24: 1
สำหรับคนที่รู้จักพระเจ้า อุปสรรค ปัญหา ขีดจำกัด ความคิดเห็น การวินิจฉัยทางลบหรือทางบวก ของคนอื่น เป็นทางลัดไปสู่ความมีเกียรติ ไม่ยอมให้สิ่งใดขัดขวางทางไปสูความมีเกียรติ

ในพระธรรม 1 โครินธ์ 4: 3-5 อัครทูตเปาโลกล่าว่า “สำหรับข้าพเจ้าการที่ท่านทั้งหลายจะวินิจฉัยตัวข้าพเจ้า ข้าพเจ้าถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ถึงแม้ข้าพเจ้าก็มิได้วินิจฉัยตัวเอง....ถึงกระนั้นข้าพเจ้าก็ไม่พ้นการพิพากษา ท่านผู้ทรงพิพากษาข้าพเจ้าคือองค์พระผู้เป็นเจ้า”
เรื่อง พ่อและลูกนำลาไปขายในเมือง.....

ยาเบสเอาชนะ การทำลายศักดิ์ศรีของคน คำวิจารณ์ของคน ความคิดเห็นของคน อุปสรรค์ ปัญหา ขีดจำกัด สิ่งที่คนทั้งโลกคิดเกี่ยวกับตัวเขา ด้วยการคิด ความเชื่อว่าพระเจ้าเป็นเจ้าของของเขา พระเจ้าคือพระบิดาของเขา เขาเป็นบุตรของพระเจ้า
Act 4: 19 อัครสาวกเปโตรกล่าวว่า... “จำเพาะพระพักตร์พระเจ้า ข้าพเจ้าควรจะเชื่อฟังท่าน หรือควรจะเชื่อฟังพระเจ้า...”

สิ่งที่พระเจ้าคิดเกี่ยวกับตัวเขาสำคัญกว่าคนทั้งโลกคิด ด้วยเหตุนี้ยาเบสจึงอธิษฐานต่อพระเจ้าด้วยความมั่นใจ.....
เขาเติบโตและมีเกียรติได้ท่ามกลางการทดลอง ปัญหา และขอบเขตจำกัด เช่นเดียวกับคริสตจักรในสมัย อัครทูต....สาวกถูกขู่ ถูกตี ถูกจับ แต่ยัง มีความชื่นชม (กิจการ5: 41)..........โยเชพ และดานิเอล

ยาเบสอธิษฐานประการแรกว่า “ขอพระองค์ทรงอวยพระพรแก่ข้าพระองค์” ยาเบสต้องมั่นใจว่า พระเจ้าเป็นพระเจ้าที่อยากอวยพระพร ยาเบสต้องมั่นใจว่าตัวเขาเองสมควรได้รับพร และเขาต้องมั่นใจว่าพระเจ้าพอใจคำอธิษฐานของเขา
ยาเบสรู้ว่าพระเจ้าเป็นเหมือนพ่อ หวังดีต่อลูก อยากอวยพรลูกด้วยพรอันดี ยาเบสรู้ต่อไปว่า ตัวเขาเองเป็นผู้ได้รับพระคุณจากพระเจ้า พระเจ้าอยากให้เขาขอพระพร ถ้าเขาไม่ขอตัวเขาจะเสียใจและพระเจ้าจะเสียพระทัย ลูกที่ไม่เคยขอพรจากพ่อแม่จะไม่เข้าใจถึงคำอธิษฐานนี้เลย เพราะลูกสมัยใหม่ไม่ต้องการคำพรจากพ่อแม่ พ่อแม่เก่าและแก่เกินกย่าจะมีสิ่งดีให้แก่เขา
ท่านมั่นใจหรือไม่ว่าพระเจ้าอยากอวยพรท่าน ท่านมั่นใจหรือไม่ว่า ท่านสมควรได้รับพระพรจากพระเจ้า คนที่เชื่อว่าพระเจ้าชอบอวยพรตนเอง เป็นคนได้รับพร เป็นคนมีพระพร

พระเจ้าให้พระพรแก่ท่านทางความสัมพันธ์กับพระองค์ ความสัมพันธ์กับผู้อื่นและทางวัตถุ ผู้ที่จะรับพรเช่นนี้ต้องเป็นผู้แสวงหาพระเจ้า ใคร่พบพระองค์ในการอธิษฐาน ในพระคำ ในการงาน ผู้ที่ประสพและสัมผัสก็จะรู้ว่าพระเจ้อยู่ใกล้ ผู้ที่บริบูรณืด้วยพระพรของพระเจ้าเช่นนี้ พระเจ้าเรียกว่า เป็น “ผู้มีเกียรติกว่าพี่น้องทั้งหลายของเขา”

คนที่ได้รับพระพรเช่นนี้จากพระเจ้าจะมีแม่น้ำแห่งชีวิตไหลไปหล่อเลี้ยงชีวิตของผู้อื่น ชีวิตของยาเบสไม่ได้อยู่เพื่อเขาจะได้ทุกสิ่งที่เขาต้องการ เขาไม่ได้อยู่เพื่อให้ได้ดังใจในบ้านในโบสถ์ในที่ทำงาน ...... เขาอยู่เพื่อพระเจ้าได้ดังพระทัยทุกอย่างในบ้านใน โบสถ์ใน ที่ทำงาน และในชีวิตของเขา
ยาเบสจึงอธิษฐานต่อไปว่า ขอให้พระเจ้า “ขยายเขตแดนของข้าพระองค์”
คำว่า “ขยายเขตแดน” ในพระธรรมตอนนี้ไม่ได้หมายถึงให้มีที่ดินเพิ่ม หรือรบชนะดินแดนอื่น แต่หมายถึง ขอให้ชีวิตของเขาเป็นพรมากมาย มีอิทธิพลทางดีเหนือคนอื่นมากมาย โดยให้กิจการและงานเจริญขึ้น ............หากกิจการของข้าพเจ้าเจริญข้างพระองค์จะถวายช่วยโบสถ์......สร้างโบสถ์......ช่วยช่วยทุนการศึกษาเด็กนักเรียน......
ตัวอย่างยาโคบ.......ปฐมกาล 28: 20-22
คุณประเสริฐ ผป.โบสถ์เชียงใหม่......
ยาเบสรับพรมือขวา เขาส่งต่อมือซ้าย คนที่พระเจ้าเห็นว่ามีเกียรติกว่าพี่น้องทั้งหลายทั้งหลายของเขานั้น เป็นคนที่ชีวิตมีการไหลเวียน
คนที่มีเกียรติกว่าพี่น้องทั้งหลายต้องรู้จักอธิษฐานต่อไปว่า “ขอพระองค์อวยพรแก่ข้าพระองค์ และขยายเขตแดนของข้าพระองค์”

อิทธิพลของท่านในสายพระเนตรของพระเจ้ากว้างใหญ่เพียงใด บางทีท่านอาจจะคิดว่า “ความทุกข์ปัญหาของฉันมันมากเกินไปแล้ว ยังจะให้สนใจความทุกข์ของคนอื่นอีกหรือ” คนที่เป็นพรต่อคนอื่นเป็นเหมือนฝนที่หยาดลงมาให้พืชพรรณได้ยืนยง...... ให้พวกเราลองคิดเล่นๆ ว่า เด็กกำพร้าในชุมชน เด็กด้อยโอกาสบนเขา ชีวิตจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง......... ถ้ามีคนสนใจเขา ถ้ามีคนรักเขา รับฟังเขา ให้โอกาสเขา

คนที่มีเกียรติในสายพระเนตรของพระเจ้าใสใจความทุกข์ ความต้องการ และปัญหาของคนอื่น....

ยาเบสรู้เคล็ดลับบางประการของชีวิตเช่นนี้ ท่านอธิษบานต่อไปว่า “ขอพระหัตถ์ของพระองค์อยู่กับข้าพระองค์” พระหัตถ์ของพระเจ้านั้นคือฤทธิ์เดชอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ยาเบสรู้ว่าชีวิตที่เป็นพร ชีวิตที่รับมือขวาจ่ายมือซ้าย รับมือซ้ายจ่ายมือขวา ชีวิตที่เป็นสายฝนนั้น ต้องการอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์และการทรงสถิตของพระเจ้า เขาทำงานนี้สำเร็จไม่ได้เพราะงานนี้เป็นงานฝ่ายจิตวิญญาณ
ยาเบสไม่กลัวเพราะเขาไม่ทำงานให้พระเจ้า แต่ทำงานกับพระเจ้า พระเจ้ากระทำให้สำเร็จ ตัวเขาเองจะกระทำให้สำเร็จ ตัวเขาเองจะได้ประสพการณ์กับฤทธานุภาพของพระเจ้า และการทรงสถิตอยู่ของพระเจ้ากับชีวิตเขาเสมอไป
คริสเตียนบางคนไม่ค่อยมีประสพการณ์กับพระเจ้า อาจเป็นเพราะชีวิตของเขาไม่อยากรับพรจากพระเจ้าเพื่อมอบพรนั้นให้กับคนอื่นก็ได้ โดยเฉพาะพรในการประกาศพระกิตติคุณ และความสนใจรักผู้อื่น นอกเหนือจากครอบครัวของตน

“ขอพระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ให้พ้นจากเหตุร้าย เพื่อมิให้ข้าพระองค์เจ็บปวดใจปวดกายและพระเจ้าทรงประสาทตามที่เขาทูลขอ” ยาเบสรู้ว่ากำลังอาศัยอยู่ในที่เต็มด้วยเหตุร้าย อุบัติเหตุ โรคภัยต่างๆ และความชั่วมากมายพระพรที่เขาได้รับคือ พระเจ้าทรงรักษาเขาให้พ้นจากเหตุร้าย เพื่อมิให้ข้าพระองค์เจ็บปวดใจปวดกายและพระเจ้าทรงประสาทตามที่เขาทูลขอของเขา

ยิ่งในสมัยนี้เรารู้ว่ากำลังอาศัยอยู่ในโลกที่เต็มด้วยเหตุร้าย อุบัติเหตุ โรคภัยต่างๆ และความชั่วที่เลวร้ายมากกว่า.......เราควรขอการคุ้มภัยทางด้านอันตรายจากความชั่ว ความบาป สิ่งมลทินที่ก่อเกิดในจิตใจ ในความคิด ในอารมณ์ ในเจตนารมณ์ ในท่าที ในความปรารถนา ในเป้าหมาย และในคำพูดด้วย...... เพราะว่า พระธรรมสุภาษิต 16: 2 กล่าวว่า “ทางทั้งสิ้นของมนุษย์ก็บริสุทธิ์ในสายตาของเขา แต่พระผู้เป็นเจ้าทรงชั่งดูจิตใจ”
มีหลายครั้งสามารถสังเกตได้ง่าย จิตใจ อารมณ์ ท่าที ความรู้สึก และคำพูดของท่านและของผม ฟังดูแล้ว ไม่มีลักษณะอุปนิสัยของพระคริสต์เหลืออยู่เลย เหมือนเป็นลักษณะนิสัยของคนที่ไม่กลับใจ ไม่ยอมจำนนต่อพระเจ้า เป็นเหมือนนิสัยของคนไม่รู้จักพระเจ้า เป็นลักษณะนิสัยเป็นที่น่ารังเกลียดน่าชัง ที่ทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เสียพระทัยอย่างยิ่ง และพระองค์ไม่สามารถสถิตอยู่ด้วย เพราะอุปนิสัย คำพูด อารมณ์ สื่อสารมาจากแหล่งที่ไม่ใช่พระเจ้า อาจมาจากความโกรธ ความไม่พอของตน หรือที่มาจากความต้องการความสะใจของตน
ท่านเคยสำรวจความคิด วิธีคิด ท่านเคยรู้สึก ท่านเคยตระหนักหรือเปล่า..........ว่าหลายครั้งหรือบางครั้งจิตใจ อารมณ์ ท่าที ความรู้สึก และคำพูด การสื่อสารของตัวเอง ฟังดูแล้ว ไม่มีลักษณะอุปนิสัยของพระคริสต์เหลืออยู่เลย เป็นลักษณะนิสัยของคนที่ไม่กลับใจ ไม่ยอมจำนนต่อพระเจ้า เป็นนิสัยของคนไม่รู้จักพระเจ้า เป็นลักษณะนิสัยเป็นที่น่ารังเกลียด ที่ทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เสียพระทัยอย่างยิ่ง.......

คนที่อยู่ใกล้ชิด ที่ทำงานร่วมด้วย สามี ภรรยา และลูก รู้ว่า จิตใจ อารมณ์ ความคิดและคำพูด มีความขมขืน ความเกลียด ความอาฆาต การวิวาท มีพระวิญญาณของพระเจ้าหรือไม่มี สัมผัสได้

เราจำเป็นต้องอธิษฐานขอเหมือนกับยาเบส ....ไม่เพียงแต่ให้พ้นอันตรายหรือเหตุร้ายทางกาย.....แต่ขอการคุมครองทางจิตใจจากอันตรายจากความบาป ความชั่ว และมลทินต่างๆด้วย...เพื่อพระเจ้าจะทรงประทานตามที่เราทูลขอ

พระธรรมฟิลิปี 4: 6-7 “จงอย่าทุกข์ร้อนในสิ่งใดๆ เลย แต่จงทูลเรื่องความปรารถนาของท่านทุกอย่างต่อพระเจ้าด้วยการอธิษฐาน การวิงวอน กับการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขแห่งพระเจ้าซึ่งเกินความเข้าใจ จะคุ้มครองจิตใจและความคิดของท่านไว้ในพระเยซูคริสต์”


เพลงพิแศษ............โดยอภิรักและเพื่อน




สรูปและเรียกร้อง
ยาเบสเป็นที่รู้จักเพราะคำอธิษฐานของเขา ยาเบสมีอุปสรรค ขีดจำกัด และ มีความหนักใจหลายอย่าง...... แต่ยาเบสก้าวข้ามอุปสรรคเหล่านั้นสู่คนที่มีเกียรติ....... ในคำอธิษฐานเขาทูลขอ สี่อย่าง (๑). ขอพระองค์อวยพร –เขาว่าเขาต้องการพรและสมควรได้พรจากพระเจ้า (๒). ขยายเขตแดน คือขอพระองค์ช่วยในกิจการงาน (๓). ขอพระหัตถ์ของพระองค์อยู่เขา - คือพลังอำนาจของพระเจ้าและพระปัญญาสถิตอยู่ในทุกอย่างที่ทำ และ (๔). ขอพระองค์ทรงรักษาข้าพระองค์ให้พ้นจากเหตุร้าย เพื่อมิให้ข้าพระองค์เจ็บปวดใจปวดกาย” และพระเจ้าทรงประสาทตามที่เขาทูลขอ”

ท่านกำลังคิดฝันสิ่งใด ท่านกำลังทำการงานอะไร ท่านต้องการสิ่งใด.....เวลานี้ท่านรู้ว่าเมื่อยาเบสวาดฝันชีวิตเขาอธิษฐานขอพระเจ้าอย่างไร ท่านรู้วิธีอธิษฐานแบบยาเบส.....ท่านร้องใคร่ครวญและอธิฐานแบบยาเบสเถิด....พระผู้เป็นเจ้าจะตอบคำอธิษฐานของท่าน อาจจะทันที หรือตามเวลาของพระองค์......
ขอพระองค์ทรงโปรดเมตตาและอวยพรท่าน......

ไม่มีความคิดเห็น: