Custom Search By Google

Custom Search

วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ดาวิด จากเด็กเลี้ยงแกะ สู่กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่


ดาวิด เป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ในพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม เริ่มปกครองอิสราเอลตั้งแต่อายุ 30 ปี และครองราชย์ นานถึง 40 ปี (2 ซามูเอล 5:4) จากเด็กเลี้ยงแกะในทุ่งหญ้า (1 ซามูเอล 16:11) พระเจ้าได้เลือกเขา เข้าสู่ราชบัลลังค์อิสราเอล และดาวิด ก็เป็นบิดาของกษัตริย์ผู้เรืองปัญญาที่สุดในประวัติศาสตร์โลก "ซาโลมอน"

ดาวิด ปรากฎตัวครั้งแรกในหนังสือ 1 ซามูเอล 16 หลังจาก ซาอูล กษัตริย์องค์แรกของอิสราเอล ไม่เชื่อฟังพระเจ้า เขาไม่สำนึกผิด และยังคงทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า พระเจ้าได้ถอดซาอูลออกจากการเป็นกษัตริย์ และใช้ให้ ซามูเอล ผู้เผยพระวจนะคนสำคัญ เจิมดาวิด เด็กหนุ่มอายุ 17 เป็นกษัตริย์ขึ้นแทน (1 ซามูเอล 16:13)

ดาวิด เป็นเด็กเลี้ยงแกะ "เป็นคนผิวแดงๆ มีหน้าตาสวยและรูปร่างงามน่าดู" (1 ซามูเอล 16:11-12) มีความสามารถ ในการดีดพิณ เป็นคนพูดเก่ง กล้าหาญ พระวิญญาณพระเจ้าทรงสถิตอยู่ด้วย (1 ซามูเอล 16:18) ดาวิด มีอารมณ์ศิลปินที่อ่อนไหว เขียนโคลงและคำสรรเสริญพระเจ้าในสดุดี ที่เป็นแบบอย่างดีที่สุด ท่านรักพระเจ้า ด้วยสุดจิต สุดใจ และเชื่อฟังพระเจ้าอยู่เสมอ

วีรกรรมอันเรืองชื่อของดาวิด

วีรกรรมหนึ่งที่น่าจดจำ คือ ความกล้าหาญ มีความเชื่อมั่น และพึ่งพาพระเจ้า เมื่อครั้งดาวิดยังเป็นเด็กหนุ่ม ชาวอิสราเอล ถูกยักษ์ชาวฟิลิสเตียท้าให้มารบอยู่หลายวัน แต่ไม่มีผู้กล้าคนใดอาสาออกมาเลย มีเพียงเด็กเลี้ยงแกะ ที่ดีดพิณให้พระราชาฟัง อาสาออกรบโดยไม่สวมยุทธภัณฑ์ใดๆ และดาวิดล้มยักษ์ ชาวฟิลิสเตีย ด้วยก้อนหินจากสลิง และตัดคอด้วยดาบของยักษ์เอง (1 ซามูเอล 17:48-51) เหมือนดังที่เคย ฆ่าสิงโตและหมี ครั้งที่เขาเคยเลี้ยงแกะ (1 ซามูเอล 17:34) เพราะดาวิดมั่นใจเสมอ ว่าพระเจ้าสถิตอยู่กับเขา!

" อยู่มาเมื่อคนฟีลิสเตียคนนั้นลุกขึ้นเข้ามาใกล้เพื่อ ปะทะดาวิด ดาวิดก็วิ่งเข้าหาแนวรบ เพื่อปะทะกับคนฟีลิสเตีย คนนั้นอย่างรวดเร็ว และดาวิดเอามือล้วงเข้าไปในย่าม หยิบหินก้อนหนึ่งออกมา แล้วเหวี่ยงหินก้อนนั้น ด้วยสายสลิง ถูกคนฟีลิสเตียคนนั้นที่หน้าผาก ก้อนหินจมเข้าไปในหน้าผาก เขาก็ล้มหน้าคว่ำลงที่ดิน ดังนั้นดาวิดก็ชนะคน ฟีลิสเตียคนนั้น ด้วยสลิงและก้อนหินก้อนหนึ่ง และคว่ำคนฟีลิสเตียคนนั้นลง และฆ่าเขาเสีย ดาวิดไม่มีดาบ อยู่ในมือ แล้วดาวิดวิ่งไปยืนอยู่เหนือคนฟีลิสเตียคนนั้น หยิบดาบของเขาชักออกจากฝัก ฆ่าเขาเสีย และตัดศีรษะ ของเขา ออกเสียด้วยดาบ เมื่อคนฟีลิสเตียเห็นว่ายอดทหารของเขาตายเสีย แล้วก็พากันหนีไป "

ทั้งที่ดาวิดเป็นคนกล้าหาญ และเป็นชายชาตินักรบ แต่ท่านเป็นคนอ่อนสุภาพ ให้เกียรติผู้อื่น ในขณะที่ซาอูล พยายามจะสังหารดาวิดอยู่หลายครั้งหลายคราว ดาวิดกลับไว้ชีวิตซาอูล แม้โอกาสจะอยู่ตรงหน้า นอกจากนี้ ดาวิดยังมีจิตใจเมตตา คอยเอื้อเฟื้อช่วยเหลือญาติที่เหลืออยู่ของซาอูล และโยนาธานเพื่อนรักเก่า แม้ท่านจะ ครองราชย์เป็นกษัตริย์แล้วก็ตาม ท่านตั้งใจจะไม่รับบังลังค์อิสราเอลโดยวิธีฆ่าคนที่เป็นครอบครัวของซาอูล แต่กลับประหารพวกที่ได้ฆ่าบุตรชายของซาอูล

ดาวิดอยากจะสร้างวิหาร เพื่อนมัสการพระเจ้า และพระเจ้าก็อนุญาต แต่ช่วงเวลาของดาวิดเอง มีการสงคราม อันทำให้เลือดตกเป็นอันมาก พระเจ้าจึงวางแผนให้ราชโอรสของดาวิด เป็นผู้สืบทอดในอนาคต อย่างไรก็ตาม ดาวิด ช่วยเหลือซาโลมอนทุกอย่าง โดยเตรียมวางโครงการไว้ และช่วยในเรื่องการเงิน วัสดุก่อสร้างต่างๆ (1 พงศาวดาร 22:2-6; 28:11)

ผลแห่งความบาปในราชวงศ์

การสงครามมากมายในช่วงการปกครองของดาวิด ทำให้ดาวิดอยากจะปลีกตัวพักผ่อนอยู่ในพระราชวัง และพระองค์ได้กระทำผิดอย่างร้ายแรง มีผลทำให้ชีวิตตอนหลังมีความทุกข์โศกมากมาย ท่านล่วงประเวณีกับ นางบัทเชบา ทั้งที่นางมีสามีอยู่แล้ว และเมื่อนางตั้งครรภ์ ท่านจึงวางแผนฆ่าสามีที่ชื่ออุรีอาห์ พระเจ้าจึงลงโทษ โดยครอบครัวของดาวิดจะต้องแตกแยก ด้วยการผิดประเวณีและฆ่าคน (2 ซามูเอล 12:7-12) แต่ดาวิด เป็นแบบอย่าง ของการกลับใจที่ดี ท่านได้สารภาพความผิดบาป สำนึกและยอมต่อพระเจ้าอย่างแท้จริง และพระเจ้า ก็กรุณา โปรดอภัยให้ แต่ไม่ได้ทำให้ดาวิดพ้นความเดือนร้อน เพราะสิ่งที่ดาวิดทำไปแล้ว ย่อมมีผลร้ายตามมา

ผลการกระทำแห่งความบาป ดาวิดต้องสูญเสียบุตรชายคนแรกที่เกิดกับนางบัทเชบา บุตรชายของดาวิดคนหนึ่ง ข่มขืนน้องสาวของตัวเอง แล้วถึงความตายด้วยมือของบุตรชายอีกคนหนึ่ง นอกจากนั้น ราชโอรสของคนอื่นๆ ได้ทำการกบฎซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดาวิดต้องระหกระเหินเพราะการกบฎของบุตรชาย แต่ในที่สุด บุตรที่กบฎก็ถูกฆ่าตาย ตลอดเวลาการปกครองของดาวิด มีการขัดแย้งทั้งภายในและภายนอกราชวังอยู่เสมอ แม้ในขณะที่จะสิ้นพระชนม์ จนกระทั่งซาโลมอนได้เป็นผู้สืบราชบัลลังก์แทน
พระพรของดาวิด

อย่างไรก็ตาม ดาวิดนับเป็นบุคคลที่พระเจ้าพอพระทัย ท่านเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้เชื่อฟัง เรื่องราวของดาวิด ปรากฎอยู่ในหนังสือหลายเล่มของพระคัมภีร์ อีกทั้งท่านยังแต่งบทเพลงสรรเสริญพระเจ้า ในสดุดี 73 บท จากทั้งหมด 150 บท ได้อย่างลึกซึ้งและจับใจ ท่านจัดระเบียบในการนมัสการในพระวิหาร จัดตั้งกลุ่มนักร้อง และนักดนตรีจนสืบต่อมารุ่นหลัง

พระเจ้ากำหนดให้พระเมสิยาห์ เป็นเชื้อสายของดาวิด แต่ยิ่งใหญ่กว่าหลายเท่า พระองค์จะประทับ บนบัลลังก์ของกษัตริย์ดาวิด (อิสยาห์ 9:7; เยเรมีห์ 23:5; 33:15; มัทธิว 12:23; ลูกา 1:32; ยอห์น 7:42) และพระเมสิยาห์ ก็ยังเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของดาวิดด้วย (โรม 1:3-4; วิวรณ์ 22:16)

ถ้าพูดถึงบุคคลดังในพระคัมภีร์ หลายคนจะนึกถึงดาวิดเป็นคนแรก เพราะวีรกรรม และเรื่องราวที่น่าจดจำ ที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์มากมาย ท่านจึงนับเป็นบุคคลตัวอย่าง ให้คนรุ่นหลัง ทั้งอนุชน และคริสเตียนทั่วไป ศึกษาเป็นตัวอย่างในหลายๆ แง่มุมอีกคนหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น: